ขอนำเสนอรูปแบบตัวตนที่แท้จริงของมนุษย์ที่มีความน่าสนใจมาก การหาค้นตัวตนที่แท้จริง ซึ่งฝรั่งเขาบัญญัติเอาไว้ 4 รูปแบบใหญ่ๆ ด้วยกันมาดูว่าคุณเข้าข่ายแบบไหนมากที่สุด เพื่อพัฒนาศักยภาพของตัวเองต่อไปเราจึงจะพามาหา การหาค้นตัวตนที่แท้จริง ตัวตนที่แท้จริงแบบที่ 1 ตะวันส่องแสง ข้อดี คุณมีพลังและความสดใสอยู่ในตัวไม่ว่าจะผ่านร้อนผ่านหนาวมากี่ฤดูแล้วก็ตาม... ความที่คุณเป็นดาวฤกษ์ที่มิใช่ดาวเคราะห์คอยพึ่งพาแสงสว่างจากดาวอื่น คุณจึงมีกำลังใจในการดำเนินชีวิตและมองโลกในแง่ดีมาก ข้อด้อย ความที่คุณเป็นคนมองโลกในแง่ดี...เกินไปเลยทำให้เป็นดาบสองคมสู้เรี่ยวแรงเสือสิงห์กระทิงเปลี่ยวโดยเฉพาะในที่ทำงานไม่ไหวดังนั้นต้องหัดมองโลกในแง่ความเป็นจริงไปจนถึงมองโลกในแง่ร้ายบ้างในบางกรณีถือซะว่าปลอดภัยไว้ก่อน ตัวตนที่แท้จริงแบบที่ 2 ...
ธรุกิจแฟรนไชส์
หลายคนน่าจะเคยเจอเคสที่ พนักงานใหม่ ในบริษัทหายตัวไปเฉยๆ หลังจากที่เข้ามาทำงานได้เพียงวันเดียว หากเราอยู่ในฐานะของเพื่อนร่วมงาน ก็คงมีอาการงงเล็กน้อยแล้วก็จะลืมเขาไปในที่สุด แต่หากเราทำหน้าที่ฝ่ายบุคคลแล้วหล่ะก็ นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ที่จะลืมกันได้ง่ายๆ เพราะเมื่อคนหนึ่งจากไปก็ต้องเสียเวลาเริ่มกระบวนการหาคนใหม่อีกรอบ แถมสิ่งที่เตรียมไว้ให้คนใหม่ก็กลายเป็นไม่ได้ใช้ประโยชน์ไปอีก มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่กับ พนักงานใหม่ ไม่มาทำงานต่อ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่กับพนักงานใหม่คนนี้ ส่วนใหญ่แล้วถ้าหายไปในระยะเวลาอันสั้น ก็มักจะไม่บอกกล่าวถึงเหตุผลที่จากไปด้วย เรียกว่าหายไปดื้อๆ...
การจะเป็นหนุ่มสาวออฟฟิศที่ประสบความสำเร็จ ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน สิ่งสำคัญก็คือคุณต้องได้ใจเพื่อนร่วมงาน ซึ่งการพิชิตใจเพื่อนร่วมงานที่ง่ายที่สุดก็คือ การรู้จักให้ ซึ่งให้ในที่นี้คุณสามารถให้ได้หลากหลายมากโดยที่แทบไม่ต้องลงทุนอะไรมากนัก การรู้จักให้ และการแบ่งปันต่อเพื่อนร่วมงานคือสิ่งที่ดี แต่ก่อนอื่นคุณต้องรู้จักการให้คนอื่นนั่น อย่างเพื่อนร่วมงานนี่ก็ใช่เต็มๆ เพราะคุณใกล้ชิดสนิทสนมกับเขามากที่สุด อย่าเอาแต่งก มีอะไรที่แบ่งกันได้ก็แบ่งปันกันไป อย่าคิดว่าอีนี่คบกันมาช้านานบาทเดียวมันยังไม่เคยกระเด็น อันนี้ก็ช่างเขาค่ะ ให้ถือว่ามันเป็นสไตล์ของเขา เราก็ให้เขาไป แบ่งกันกินบ้างนิดหน่อยขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก ซึ่งคุณสามารถให้ได้หลายทางมาก...
พรหมวิหาร 4 เพื่อนร่วมงาน “พรหมวิหาร 4” ไม่ใช่เป็นคุณธรรมสำหรับเจ้าคนนายคนเท่านั้น แต่ยังเป็นคุณธรรมที่เหมาะกับทุกคนในออฟฟิศ เพราะแม้คุณธรรมข้อนี้จะช่วยสร้างภาวะความเป็นผู้นำได้ แต่หนุ่มสาวสาวออฟฟิศจะรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ก็สามารถใช้ได้ทั้งนั้น ยิ่งถ้าเป็นรุ่นใหญ่ก็ยิ่งดีเพราะคุณมีโอกาสที่จะอัพตำแหน่งไปปกครองเด็กๆ ในสังกัด แบบนี้ถ้ารีบมีคุณธรรมเหล่านี้สั่งสมแต่เนิ่นๆ ก็จะช่วยให้คุณมีเสียงข้างมากในออฟฟิศ คราวนี้คิดจะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น ทั้งยังช่วยให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน และเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงานและเจ้านายอย่างแน่นอน พรหมวิหาร 4 เพื่อนร่วมงาน...
สิ่งหนึ่งที่สามารถบ่งบอกถึงความสำเร็จในช่วงวัยทำงานของคนเราก็คือความก้าวหน้าในอาชีพการงาน ซึ่งความก้าวหน้าในหน้าที่จะมาได้ในหลายรูปแบบ เช่น ได้เลื่อนตำแหน่งจากอายุงาน เปลี่ยนสายงานตามความสามารถ ขณะเดียวกันหน้าที่การงานก็สามารถถดถอยได้หากเราไม่มีความพยายาม ความอดทนหรือทัศนคติในหน้าที่นั้นมากพอ สิ่งหนึ่งที่สามารถช่วยส่งเสริมให้เราประสบความสำเร็จในหน้าที่ได้ก็คือ เทคนิคปรับวิธีคิด ในการทำงานในบริบทต่างๆ เพื่อที่เราจะประสบความสำเร็จในสิ่งที่ได้รับมอบหมายได้ วันนี้เราจะมาแจกเทคนิคการปรับวิธีคิดเพื่อความก้าวหน้าในอาชีพกัน เทคนิคปรับวิธีคิด อย่างไรทำให้การทำงานของเราประสบความสำเร็จ มีความเชื่อมั่นในตัวเอง เป็นธรรมดาที่คนเรามีบุคลิกภาพที่แตกต่างกัน บางคนมีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก ขณะที่บางคนไม่มีความมั่นใจใดๆ ในตัวเองเลย...
ขอนำเสนอคำคมและสำนวนสุภาษิตที่เกี่ยวกับการพูด คำคมเกี่ยวกับการพูด เพื่อใช้พัฒนาตนเอง คำคมสร้างอนาคต : “เปล่งวาจางาม ยังประโยชน์ให้สำเร็จ” (พุทธศาสนสุภาษิต) การกล่าววาจางามไม่ได้หมายถึงการพูดจาสุภาพ ไพเราะ เสียงอ่อนเสียงหวานเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการพูดในสิ่งที่ดี ที่เป็นความจริงด้วย ขอแนะนำ คำคมเกี่ยวกับการพูด พูดแล้วมีคนสนใจฟัง เชื่อถือ และน่าสนใจมากขึ้น คำคมสร้างอนาคต ...
ในส่วนนี้ขอนำเสนอกลยุทธ์ การเจรจาต่อรอง ที่คุณสามารถนำไปปรับใช้กับการซื้อสินค้าและทำธุรกิจต่างๆ ไม่ว่าจะไปพบเจอลูกค้าหรือผู้ร่วมงานก็ตาม การเจรจาที่ดีมักจะมีผลดีที่ตามมาเสมอ วันนี้เลยมีเทคนิคดี ๆ ใการเจรจาต่อรองมาบอกและได้ผลแน่นอน เรียนรู้ การเจรจาต่อรอง สินค้าอย่างไรให้การต่อรองเห็นผล 1. มีมาดหน่อย คำว่ามีมาดในที่นี้หมายถึง การแสดงพฤติกรรมที่เหมาะสมในการต่อรอง เช่น - แสดงความมั่นใจในตัวเอง- พูดจาเสียงดังฟังชัด- น้ำเสียงที่พูดเข้มแข็งหนักแน่น ไม่ต้องเสียงอ่อนเสียงหวานก็ได้ แค่ฟังแล้วสุภาพก็พอครับ ...
เแจกแจงประโยชน์ป็น การเจรจาต่อรอง โดยเสนอผลประโยชน์ต่างๆ ที่อีกฝ่ายจะได้รับ เพื่อช่วยให้ตัดสินใจเร็วขึ้น ได้ผลดีเพราะใครๆ ก็ชอบที่จะได้แทนที่จะเสีย ได้แก่- “คุณก็ได้ทราบถึงผลประโยชน์อันมากมายที่จะได้รับแล้ว ดิฉันเชื่อว่าคุณจะตอบรับข้อเสนอที่ดีเช่นนี้นะคะ”- “สรุปว่าตอนนี้ก็ทำตามวิธีการเดิมไปก่อน ต่อไปก็จะมีการพัฒนาขึ้นเองครับ”- “ถ้าคุณฟังดิฉันในเรื่องนี้ ดิฉันก็จะฟังคุณในเรื่องอื่นๆ เช่นเดียวกันค่ะ” การเจรจาต่อรอง ผลประโยชน์ต่างๆ ที่อีกฝ่ายจะได้รับ เพื่อช่วยให้ตัดสินใจเร็วขึ้น ดักคอซะหน่อย ศิลปะการเจรจาต่อรอง บางครั้งก็ต้องพองตัวและดักคอนิดหน่อย... - “เท่าที่ผมทราบมา อัตราเงินเดือนของผู้ที่มีตำแหน่งหน้าที่เช่นผมอยู่ที่ประมาณ 40,000 ...
ขอนำเสนอ เทคนิคการขายของ การเตรียมตัวขายของซึ่งทำให้ขายของดีมีลูกค้าประจำ รวมถึงการทำธุรกิจและการทำงานออฟฟิศที่ต้องติดต่อลูกค้ามากมาย เทคนิคการขายของ เพื่อให้ได้ลูกค้าจำนวนมากขึ้นและธุรกิจไปได้ดี รู้จักสินค้าดีพอ การเตรียมตัวขายของอันดับแรกคือ คนขายต้องรู้จักสินค้าของตัวเองว่ามีรายละเอียดอะไรบ้าง เพื่อนำเสนอข้อดีและตอบคำถามของลูกค้าได้อย่างน่าพอใจและลื่นไหล (ส่วนข้อเสียของสินค้านั้น เราละไว้ในฐานที่เข้าใจ...) ได้แก่ - รู้จักรายละเอียดของสินค้า เช่น ชื่อสินค้า ชื่อรุ่น สีสัน ขนาด คุณสมบัติ ราคา ระยะเวลารับประกัน - รู้จักวิธีการใช้อย่างละเอียดและถูกต้อง- รู้จักวิธีการดูแลรักษาสินค้า รู้จักบริษัทลูกค้าด้วย คุณสามารถหาข้อมูลได้จากเว็ปไซต์ของบริษัทและที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นการเตรียมตัวขายของได้ตามนี้ - ...
การพูดจูงใจขายสินค้า การพูดขายของ สำคัญอย่างไร? คือการพูดชักจูงให้ลูกค้าเกิดความคล้อยตามเกิดการซื้อสินค้าหรือบริการหรือเข้าร่วมธุรกิจด้วย นอกจากนี้ยังสามารถนำไปปรับใช้กับการพูดในแวดวงธุรกิจและงานออฟฟิศด้วย ซึ่งทำให้งานเดินเงินดีครับ... ฝึกฝน การพูดจูงใจขายสินค้า การพูดขายของให้มัดใจลูกค้าอยู่หมัด ซื้อใจ เป็นการพูดขายสินค้าในเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับการขายหรือตัวสินค้าและบริการบ้างตามสมควร เพื่อสร้างบรรยากาศที่เป็นกันเอง ไม่เคร่งเครียดและทำให้ลูกค้าไม่รู้สึกว่าถูกต้อนให้ซื้อสินค้ามากเกินไป ดังนั้นต้องใช้การสังเกตและคาดเดาประกอบเหตุผล เช่น- พูดในเรื่องข่าวสารต่างๆ ในปัจจุบันที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองหรือเรื่องละเอียดอ่อน- พูดในเรื่องที่ลูกค้าชื่นชมหรือมีความสนใจอยู่แล้ว- พูดในเรื่องที่ลูกค้ารู้สึกภาคภูมิใจ เช่น รูปร่างหน้าตา หน้าที่การงาน การศึกษา ไถ่ถามปัญหา เป็นการพูดขายของโดย (แกล้ง)ถามปัญหาลูกค้า เพื่อจะได้นำสินค้าหรือบริการของเราเข้าไปเสียบ เอ๊ย! เข้าไปช่วยแก้ปัญหาให้ลูกค้าเช่น - “คุณเป็นคนหนึ่งที่มีปัญหาในการนอน นอนหลับยากหรือตื่นกลางดึกบ่อยๆ หรือไม่คะ?”- “คุณต้องเหน็ดเหนื่อยวุ่นวายกับการทำความสะอาดบ้าน ซึ่งใช้เวลานานเป็นวันๆ ใช่ไหมครับ?”...